ประเภทของไฟแต่ละชนิดอันตรายต่างกัน พร้อม 5 วิธีดับไฟที่ถูกต้อง

by pam
13 views
ประเภทของไฟแต่ละชนิด

อัคคีภัยเป็นเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา และอาจสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน การมีความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของไฟและวิธีการดับไฟที่ถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็น เพราะไฟแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและแหล่งเชื้อเพลิงที่แตกต่างกัน ซึ่งต้องใช้วิธีการดับที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการลุกลามของเปลวไฟและลดความเสี่ยงในการเกิดอันตราย

การจำแนกประเภทของไฟ ตามหลักสากล

ไฟสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะของเชื้อเพลิงที่ติดไฟ มาตรฐานที่นิยมใช้ในการจำแนกประเภทของไฟคือ มาตรฐาน NFPA (National Fire Protection Association) จากสหรัฐอเมริกา และมาตรฐาน มอก. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของไทย) ซึ่งมีการแบ่งประเภทของไฟออกเป็น 5 กลุ่มหลัก ดังนี้

ประเภทของไฟ (Class of Fire)

ประเภทไฟ วัสดุที่ติดไฟ ตัวอย่าง วิธีดับไฟที่เหมาะสม
Class A วัสดุที่ติดไฟง่าย เช่น ไม้ กระดาษ ผ้า พลาสติก เฟอร์นิเจอร์ไม้ไหม้, ไฟไหม้เอกสาร ใช้น้ำ, โฟม, หรือสารเคมีดับเพลิงประเภท A
Class B ของเหลวไวไฟ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง สีน้ำมัน แอลกอฮอล์ ไฟไหม้ถังน้ำมัน, สีทาบ้าน ใช้ผงเคมีแห้ง, ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂), หรือสารโฟม
Class C ไฟที่เกิดจากอุปกรณ์ไฟฟ้า ไฟไหม้ตู้ควบคุมไฟฟ้า, หม้อแปลงระเบิด ใช้ก๊าซ CO₂, ผงเคมีแห้ง (ห้ามใช้น้ำโดยเด็ดขาด!)
Class D ไฟจากโลหะไวไฟ เช่น แมกนีเซียม อะลูมิเนียม โรงงานผลิตโลหะ, ห้องปฏิบัติการเคมี ใช้สารเคมีเฉพาะทาง เช่น Sodium Chloride หรือ Graphite
Class K ไขมันและน้ำมันปรุงอาหาร ไฟไหม้จากน้ำมันในร้านอาหาร ใช้สารดับเพลิงประเภท K ที่สามารถทำปฏิกิริยากับไขมันเพื่อหยุดการลุกไหม้

วิธีการดับไฟที่ถูกต้อง ต้องทำอะไรบ้าง

ก่อนที่เราจะต้องเจอกับสถานการณ์ไฟไหม้จริง มี 2 สิ่งหลักๆ ที่ทุกคนควรทราบ เพื่อให้ใช้งานอุปกรณ์ได้และดับไฟได้อย่างรวดเร็ว ไม่เกิดการลุกไหม้ที่รุนแรงกว่าเดิม

เลือกใช้สารดับเพลิงที่เหมาะสม กับชนิดไฟ

1. เลือกใช้สารดับเพลิงที่เหมาะสม กับชนิดไฟ

    • ไฟประเภท A: ควรใช้น้ำ หรือโฟมดับเพลิงที่ช่วยลดอุณหภูมิของไฟและป้องกันการติดไฟซ้ำ
    • ไฟประเภท B: ห้ามใช้น้ำโดยเด็ดขาด เพราะน้ำอาจทำให้ของเหลวไวไฟกระจาย ควรใช้สารเคมีแห้งหรือ CO₂
    • ไฟประเภท C: ห้ามใช้น้ำ เพราะอาจทำให้เกิดไฟฟ้าช็อต ควรใช้ CO₂ หรือผงเคมีแห้ง
    • ไฟประเภท D: ต้องใช้สารเคมีพิเศษ เช่น Sodium Chloride หรือ Graphite เพื่อดูดซับความร้อน
    • ไฟประเภท K: ใช้สารดับเพลิงที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ สำหรับน้ำมันและไขมันปรุงอาหาร

2. รู้หลักการใช้ถังดับเพลิง

ถังดับเพลิงเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยควบคุมไฟเบื้องต้น วิธีการใช้อย่างถูกต้องโดยใช้ หลักการ PASS ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เข้าใจง่ายและมีประสิทธิภาพในการดับไฟ

    • Pull (ดึง) – ดึงสลักนิรภัยออกจากถังดับเพลิง
    • Aim (เล็ง) – เล็งหัวฉีดไปที่ฐานของเปลวไฟ ไม่ใช่ที่เปลวไฟด้านบน
    • Squeeze (บีบ) – บีบคันโยกเพื่อปล่อยสารดับเพลิงออกมา
    • Sweep (กวาด) – กวาดหัวฉีดไปมาเพื่อให้สารดับเพลิงคลุมพื้นที่ไฟอย่างทั่วถึง

ข้อควรระวังในการดับไฟ

  1. อย่าตื่นตระหนก – ตั้งสติและประเมินสถานการณ์ก่อนดำเนินการ
  2. ห้ามใช้น้ำกับไฟที่เกิดจากน้ำมันหรือไฟฟ้า – อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
  3. ตรวจสอบถังดับเพลิงก่อนใช้งาน – ต้องมั่นใจว่าแรงดันเพียงพอและอยู่ในสภาพพร้อมใช้
  4. สวมอุปกรณ์ป้องกันหากเป็นไปได้ – เพื่อลดความเสี่ยงจากควันและความร้อน
  5. หากควบคุมไฟไม่ได้ ให้รีบอพยพและแจ้งหน่วยดับเพลิง – เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ติดตั้งระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ในอาคาร

วิธีการป้องกันอัคคีภัย ก่อนเกิดเหตุไฟไหม้มีอะไรบ้าง

  • ติดตั้งระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อตรวจจับสัญญาณของไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็น ควัน ความร้อน หรือเปลวไฟ และแจ้งเตือนให้ผู้อยู่ในอาคารทราบเพื่อดำเนินการอพยพหรือควบคุมเพลิงก่อนที่สถานการณ์จะลุกลาม
  • จัดเก็บวัสดุไวไฟอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการลุกลามของไฟ
  • ตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจร
  • ฝึกซ้อมแผนฉุกเฉิน เพื่อให้พนักงานและสมาชิกในบ้านรู้วิธีการรับมือ เมื่อเกิดเพลิงไหม้ขึ้น
  • เรียนรู้การใช้ถังดับเพลิง เพื่อสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

สรุป

การเข้าใจประเภทของไฟและการเลือกใช้วิธีการดับไฟที่เหมาะสม เป็นทักษะที่ทุกคน ไม่ว่าจะวันเรียน วัยทำงานจนถึงวัยชรา ต้องรู้ในการป้องกันอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้น การเตรียมความพร้อมผ่านการฝึกอบรมและการมีอุปกรณ์ดับเพลิงที่เพียงพอ สามารถช่วยลดความเสียหายจากเพลิงไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การป้องกันไฟตั้งแต่ต้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน

โดยสำหรับบุคคลทั่วไปจนถึง พนักงานในโรงงาน ความรู้จากหลักสูตรดับเพลิงขั้นต้น เพียงพอที่จะสามารถรับมือกับสถานการณ์ไฟไหม้ได้ แต่สำหรับทีมกู้ภัยต้องอบรมหลักสูตรดับเพลลิงขั้นสูง หากคุณสนใจ ที่ เซฟตี้เมมเบอร์ เรามีบริการอบรมแบบอินเฮ้าส์ โดยมีให้คุณได้เลือกดังนี้

  • หลักสูตรอบรมดับเพลิงขั้นต้น และซ้อมอพยพหนีไฟ (จำนวนผู้อบรม 1-40 คน) เรียน 9 ชม.
  • หลักสูตรอบรมดับเพลิงขั้นต้น (จำนวนผู้อบรม 1-40 คน) เรียน 6 ชม.
  • หลักสูตรซ้อมอพยพหนีไฟ (จำนวนผู้อบรม 1-40 คน) เรียน 3 ชม.

รายละเอียดหลักสูตร : อบรมดับเพลิงขั้นต้น พร้อมใบเซอร์

ติดต่อสอบถาม : อีเมล Sale@safetymember.net / โทร (064) 958 7451 (คุณแนน)


บทความที่น่าสนใจ

อ้างอิง

  • National Fire Protection Association (NFPA). (2023). Fire Classifications and Fire Extinguishing Agents.
  • Thai Industrial Standards Institute (TISI). (2022). มาตรฐานการดับเพลิงในประเทศไทย.
  • Occupational Safety and Health Administration (OSHA). (2023). Fire Safety and Prevention Guidelines.

บทความน่าสนใจ

ใบอนุญาตกรมสวัสดิการฯ

คลิกรูปเพื่อขยาย

ได้รับมาตรฐาน ISO 9001

คลิกรูปเพื่อขยาย

บริษัท เซฟตี้ เมมเบอร์

เลขที่ 349 อาคารเอสเจ อินฟินิท วัน บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ ชั้น 20 ห้องเลขที่ 2001-2005  ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

อีเมล
โทรศัพท์

คุณ แนน

เพิ่มเพื่อน

©2025 SAFETYMEMBER. Developed website and SEO by iPLANDIT