ค่า KPI คืออะไร รู้จักตัวชี้วัดที่ช่วยลดอุบัติเหตุในองค์กร

by pam
15 views
ค่า KPI คือ

ในยุคที่องค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการจัดการความปลอดภัยในสถานประกอบการอย่างจริงจัง การมีระบบบริหารจัดการที่ชัดเจนและสามารถตรวจสอบได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ใช้วัดผลและติดตามประสิทธิภาพของระบบความปลอดภัยก็คือ “ค่า KPI” หรือ Key Performance Indicators ด้านความปลอดภัย ซึ่งบทความนี้มุ่งเน้นอธิบายความหมาย ประเภท การประยุกต์ใช้ และแนวทางการตั้ง KPI ความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ สำหรับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) ซึ่งเป็นบุคลากรหลักในการขับเคลื่อนระบบความปลอดภัยขององค์กร

ความหมายของค่า KPI

KPI (Key Performance Indicator) หมายถึง ตัวชี้วัดผลงานหลัก ที่ใช้วัดความก้าวหน้าและประสิทธิภาพในการดำเนินงานขององค์กรหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง สำหรับด้านความปลอดภัยในการทำงาน KPI จะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือวัดผลของระบบบริหารความปลอดภัย ทั้งในเชิงการป้องกันอุบัติเหตุ (Preventive) และการติดตามผลหลังเกิดเหตุ (Corrective)

KPI ความปลอดภัยจึงเป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างนโยบายขององค์กรกับผลลัพธ์ในเชิงปฏิบัติ โดยแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมหรือมาตรการต่าง ๆ ที่ดำเนินการในด้านความปลอดภัยนั้นส่งผลต่อสภาพแวดล้อมการทำงานและพฤติกรรมของพนักงานอย่างไร

ประเภทของค่า KPI

ประเภทของค่า KPI

โดยทั่วไป KPI ความปลอดภัยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่:

1. Lagging Indicators (ตัวชี้วัดผลย้อนหลัง)

เป็นตัวชี้วัดที่สะท้อนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น การเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ หรือความเสียหายทางทรัพย์สิน ตัวชี้วัดกลุ่มนี้ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มและความถี่ของเหตุการณ์ที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น:

  • จำนวนอุบัติเหตุทั้งหมดในรอบปี
  • อัตราการบาดเจ็บที่ทำให้ต้องหยุดงาน (Lost Time Injury Rate: LTIR)
  • จำนวนวันทำงานที่สูญเสียจากอุบัติเหตุ
  • ค่า Severity Rate (ระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุ)

ข้อดีของ Lagging Indicators คือ มีข้อมูลชัดเจนจากเหตุการณ์จริง แต่ข้อจำกัดคือไม่สามารถป้องกันเหตุการณ์ล่วงหน้าได้

2. Leading Indicators (ตัวชี้วัดเชิงป้องกัน)

เป็นตัวชี้วัดที่ใช้ติดตามกิจกรรมหรือพฤติกรรมที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงระบบและลดความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น:

  • จำนวนการอบรมด้านความปลอดภัยที่ดำเนินการแล้ว
  • จำนวนรายงาน Near miss (เหตุการณ์เฉียดอุบัติเหตุ)
  • ความถี่ในการเดินตรวจความปลอดภัย (Safety Walk)
  • จำนวนข้อเสนอแนะด้านความปลอดภัยจากพนักงาน
  • อัตราการตอบสนองต่อข้อร้องเรียนเกี่ยวกับความปลอดภัย

Leading Indicators ช่วยให้องค์กรสามารถมองเห็นแนวโน้มของความเสี่ยงและดำเนินการเชิงรุกได้ทันท่วงที

หลักการ SMART

แนวทางการตั้งค่า KPI ที่มีประสิทธิภาพ

การตั้ง KPI ความปลอดภัยที่ดี ควรพิจารณาจากหลัก SMART ได้แก่:

  • S (Specific): มีความเฉพาะเจาะจง เช่น “จำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากงานเชื่อม”
  • M (Measurable): วัดผลได้ เช่น วัดเป็นจำนวนครั้งหรือเปอร์เซ็นต์
  • A (Achievable): สามารถบรรลุได้ตามศักยภาพขององค์กร
  • R (Relevant): สอดคล้องกับเป้าหมายและความเสี่ยงขององค์กร
  • T (Time-bound): มีกรอบเวลาที่ชัดเจน เช่น รายเดือน หรือรายไตรมาส

นอกจากนี้ควรมีการทบทวน KPI เป็นระยะ เช่น ทุกไตรมาสหรือทุก 6 เดือน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง

ตัวอย่างค่า KPI ความปลอดภัยที่นิยมใช้ในโรงงาน

ตัวชี้วัด เป้าหมาย หน่วยวัด ความถี่
อัตราการเกิดอุบัติเหตุ (Accident Rate) ≤0.5% ร้อยละ รายเดือน
จำนวนการอบรมความปลอดภัย ≥1 ครั้ง/แผนก ครั้ง รายไตรมาส
จำนวนการเดินตรวจความปลอดภัย ≥4 ครั้ง/เดือน ครั้ง รายเดือน
จำนวน Near miss ที่รายงาน ≥10 กรณี/เดือน กรณี รายเดือน
อัตราการตอบสนองต่อข้อเสนอแนะของพนักงาน ≥90% ร้อยละ รายไตรมาส

หมายเหตุ : ในการตั้งค่านอกจากจะสอดคล้องตาม SMART แล้ว

  • ต้อง สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร

  • ต้องเป็นสิ่งที่ วัดได้จริง

  • มีการ เก็บข้อมูลและติดตามผล อย่างสม่ำเสมอ

  • ต้องสามารถ ปรับปรุงหรือควบคุม ได้

  • ควรมีการสื่อสารให้พนักงานทุกระดับ เข้าใจและมีส่วนร่วม

บทบาทของ จป. กับการใช้ค่า KPI

บทบาทของ จป. กับการใช้ค่า KPI

เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) โดยเฉพาะ จป. วิชาชีพและ จป. บริหาร มีบทบาทสำคัญในการออกแบบและติดตามค่า KPI โดยมีหน้าที่ดังนี้:

  • วิเคราะห์ความเสี่ยงและกำหนดตัวชี้วัดที่เหมาะสมกับลักษณะงาน
  • เก็บรวบรวมข้อมูลด้านความปลอดภัยจากหน่วยงานต่าง ๆ
  • จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัยเพื่อนำเสนอผู้บริหาร
  • ประสานงานกับหัวหน้างานเพื่อให้มีการปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดไว้ใน KPI
  • ประเมินผลและเสนอแนวทางปรับปรุงเพื่อพัฒนาระบบความปลอดภัย

การประยุกต์ใช้ KPI กับระบบ ISO และกฎหมาย

หลายองค์กรต้องการให้ระบบความปลอดภัยของตนสอดคล้องกับมาตรฐาน ISO เช่น ISO 45001 ซึ่งเน้นระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การใช้ KPI จึงเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตรวจสอบภายใน (Internal Audit) และทบทวนระบบ (Management Review)

ในทางกฎหมาย กฎหมายแรงงานและพระราชบัญญัติความปลอดภัยในการทำงาน ยังสนับสนุนให้องค์กรมีการติดตามและประเมินผลด้านความปลอดภัย ซึ่ง KPI เป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์ดังกล่าวอย่างชัดเจน

สรุป

KPI ความปลอดภัย เป็นองค์ประกอบสำคัญในการบริหารจัดการความปลอดภัยในสถานประกอบการ โดยเฉพาะสำหรับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) ที่ต้องใช้เครื่องมือนี้เพื่อประเมินผล วางแผน และผลักดันให้องค์กรบรรลุเป้าหมายด้านความปลอดภัยอย่างยั่งยืน การออกแบบ KPI ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับบริบทขององค์กร จึงเป็นภารกิจสำคัญที่ จป. ทุกระดับควรให้ความสำคัญและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

สนใจอบรม จป.บริหาร กับวิทยากรมืออาชีพ?

ศูนย์ฝึกอบรม Safetymember มีหลักสูตรอบรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับบริหาร (จป.บริหาร) ที่ได้รับการรับรอง พร้อมทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงจากภาคอุตสาหกรรมจริง เหมาะสำหรับผู้บริหารทุกระดับที่ต้องการเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมาย และระบบบริหารความปลอดภัย ตามหลักสูตริบรม จป บริการที่กฎหมายกำหนด

📍 อบรมได้ทั้งแบบ Public และ In-house

📅 เช็ควันอบรมล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ของเรา:  อบรม จป บริหาร

📢 สนใจสอบถามข้อมูล โทร. (064) 958 7451 คุณแนน


แหล่งอ้างอิง

  1. กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน. (2566). แนวทางการกำหนดตัวชี้วัดด้านความปลอดภัยในการทำงาน.
  2. Occupational Safety and Health Administration (OSHA). Using Leading Indicators to Improve Safety and Health Outcomes.
  3. Safe Work Australia. Measuring and reporting on work health and safety.
  4. International Labour Organization (ILO). Guidelines on Occupational Safety and Health Management Systems (ILO-OSH 2001). Geneva.

บทความที่น่าสนใจ

บทความน่าสนใจ

ใบอนุญาตกรมสวัสดิการฯ

คลิกรูปเพื่อขยาย

ได้รับมาตรฐาน ISO 9001

คลิกรูปเพื่อขยาย

บริษัท เซฟตี้ เมมเบอร์

เลขที่ 349 อาคารเอสเจ อินฟินิท วัน บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ ชั้น 20 ห้องเลขที่ 2001-2005  ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

อีเมล
โทรศัพท์

คุณ แนน

เพิ่มเพื่อน

©2025 SAFETYMEMBER. Developed website and SEO by iPLANDIT