ในยุคที่องค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการจัดการความปลอดภัยในสถานประกอบการอย่างจริงจัง การมีระบบบริหารจัดการที่ชัดเจนและสามารถตรวจสอบได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ใช้วัดผลและติดตามประสิทธิภาพของระบบความปลอดภัยก็คือ “ค่า KPI” หรือ Key Performance Indicators ด้านความปลอดภัย ซึ่งบทความนี้มุ่งเน้นอธิบายความหมาย ประเภท การประยุกต์ใช้ และแนวทางการตั้ง KPI ความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ สำหรับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) ซึ่งเป็นบุคลากรหลักในการขับเคลื่อนระบบความปลอดภัยขององค์กร
ความหมายของค่า KPI
KPI (Key Performance Indicator) หมายถึง ตัวชี้วัดผลงานหลัก ที่ใช้วัดความก้าวหน้าและประสิทธิภาพในการดำเนินงานขององค์กรหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง สำหรับด้านความปลอดภัยในการทำงาน KPI จะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือวัดผลของระบบบริหารความปลอดภัย ทั้งในเชิงการป้องกันอุบัติเหตุ (Preventive) และการติดตามผลหลังเกิดเหตุ (Corrective)
KPI ความปลอดภัยจึงเป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างนโยบายขององค์กรกับผลลัพธ์ในเชิงปฏิบัติ โดยแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมหรือมาตรการต่าง ๆ ที่ดำเนินการในด้านความปลอดภัยนั้นส่งผลต่อสภาพแวดล้อมการทำงานและพฤติกรรมของพนักงานอย่างไร
ประเภทของค่า KPI
โดยทั่วไป KPI ความปลอดภัยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่:
1. Lagging Indicators (ตัวชี้วัดผลย้อนหลัง)
เป็นตัวชี้วัดที่สะท้อนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น การเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ หรือความเสียหายทางทรัพย์สิน ตัวชี้วัดกลุ่มนี้ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มและความถี่ของเหตุการณ์ที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น:
- จำนวนอุบัติเหตุทั้งหมดในรอบปี
- อัตราการบาดเจ็บที่ทำให้ต้องหยุดงาน (Lost Time Injury Rate: LTIR)
- จำนวนวันทำงานที่สูญเสียจากอุบัติเหตุ
- ค่า Severity Rate (ระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุ)
ข้อดีของ Lagging Indicators คือ มีข้อมูลชัดเจนจากเหตุการณ์จริง แต่ข้อจำกัดคือไม่สามารถป้องกันเหตุการณ์ล่วงหน้าได้
2. Leading Indicators (ตัวชี้วัดเชิงป้องกัน)
เป็นตัวชี้วัดที่ใช้ติดตามกิจกรรมหรือพฤติกรรมที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงระบบและลดความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น:
- จำนวนการอบรมด้านความปลอดภัยที่ดำเนินการแล้ว
- จำนวนรายงาน Near miss (เหตุการณ์เฉียดอุบัติเหตุ)
- ความถี่ในการเดินตรวจความปลอดภัย (Safety Walk)
- จำนวนข้อเสนอแนะด้านความปลอดภัยจากพนักงาน
- อัตราการตอบสนองต่อข้อร้องเรียนเกี่ยวกับความปลอดภัย
Leading Indicators ช่วยให้องค์กรสามารถมองเห็นแนวโน้มของความเสี่ยงและดำเนินการเชิงรุกได้ทันท่วงที
แนวทางการตั้งค่า KPI ที่มีประสิทธิภาพ
การตั้ง KPI ความปลอดภัยที่ดี ควรพิจารณาจากหลัก SMART ได้แก่:
- S (Specific): มีความเฉพาะเจาะจง เช่น “จำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากงานเชื่อม”
- M (Measurable): วัดผลได้ เช่น วัดเป็นจำนวนครั้งหรือเปอร์เซ็นต์
- A (Achievable): สามารถบรรลุได้ตามศักยภาพขององค์กร
- R (Relevant): สอดคล้องกับเป้าหมายและความเสี่ยงขององค์กร
- T (Time-bound): มีกรอบเวลาที่ชัดเจน เช่น รายเดือน หรือรายไตรมาส
นอกจากนี้ควรมีการทบทวน KPI เป็นระยะ เช่น ทุกไตรมาสหรือทุก 6 เดือน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
ตัวอย่างค่า KPI ความปลอดภัยที่นิยมใช้ในโรงงาน
ตัวชี้วัด | เป้าหมาย | หน่วยวัด | ความถี่ |
---|---|---|---|
อัตราการเกิดอุบัติเหตุ (Accident Rate) | ≤0.5% | ร้อยละ | รายเดือน |
จำนวนการอบรมความปลอดภัย | ≥1 ครั้ง/แผนก | ครั้ง | รายไตรมาส |
จำนวนการเดินตรวจความปลอดภัย | ≥4 ครั้ง/เดือน | ครั้ง | รายเดือน |
จำนวน Near miss ที่รายงาน | ≥10 กรณี/เดือน | กรณี | รายเดือน |
อัตราการตอบสนองต่อข้อเสนอแนะของพนักงาน | ≥90% | ร้อยละ | รายไตรมาส |
หมายเหตุ : ในการตั้งค่านอกจากจะสอดคล้องตาม SMART แล้ว
-
ต้อง สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร
-
ต้องเป็นสิ่งที่ วัดได้จริง
-
มีการ เก็บข้อมูลและติดตามผล อย่างสม่ำเสมอ
-
ต้องสามารถ ปรับปรุงหรือควบคุม ได้
-
ควรมีการสื่อสารให้พนักงานทุกระดับ เข้าใจและมีส่วนร่วม
บทบาทของ จป. กับการใช้ค่า KPI
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) โดยเฉพาะ จป. วิชาชีพและ จป. บริหาร มีบทบาทสำคัญในการออกแบบและติดตามค่า KPI โดยมีหน้าที่ดังนี้:
- วิเคราะห์ความเสี่ยงและกำหนดตัวชี้วัดที่เหมาะสมกับลักษณะงาน
- เก็บรวบรวมข้อมูลด้านความปลอดภัยจากหน่วยงานต่าง ๆ
- จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัยเพื่อนำเสนอผู้บริหาร
- ประสานงานกับหัวหน้างานเพื่อให้มีการปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดไว้ใน KPI
- ประเมินผลและเสนอแนวทางปรับปรุงเพื่อพัฒนาระบบความปลอดภัย
การประยุกต์ใช้ KPI กับระบบ ISO และกฎหมาย
หลายองค์กรต้องการให้ระบบความปลอดภัยของตนสอดคล้องกับมาตรฐาน ISO เช่น ISO 45001 ซึ่งเน้นระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การใช้ KPI จึงเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตรวจสอบภายใน (Internal Audit) และทบทวนระบบ (Management Review)
ในทางกฎหมาย กฎหมายแรงงานและพระราชบัญญัติความปลอดภัยในการทำงาน ยังสนับสนุนให้องค์กรมีการติดตามและประเมินผลด้านความปลอดภัย ซึ่ง KPI เป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์ดังกล่าวอย่างชัดเจน
สรุป
KPI ความปลอดภัย เป็นองค์ประกอบสำคัญในการบริหารจัดการความปลอดภัยในสถานประกอบการ โดยเฉพาะสำหรับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) ที่ต้องใช้เครื่องมือนี้เพื่อประเมินผล วางแผน และผลักดันให้องค์กรบรรลุเป้าหมายด้านความปลอดภัยอย่างยั่งยืน การออกแบบ KPI ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับบริบทขององค์กร จึงเป็นภารกิจสำคัญที่ จป. ทุกระดับควรให้ความสำคัญและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
สนใจอบรม จป.บริหาร กับวิทยากรมืออาชีพ?
ศูนย์ฝึกอบรม Safetymember มีหลักสูตรอบรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับบริหาร (จป.บริหาร) ที่ได้รับการรับรอง พร้อมทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงจากภาคอุตสาหกรรมจริง เหมาะสำหรับผู้บริหารทุกระดับที่ต้องการเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมาย และระบบบริหารความปลอดภัย ตามหลักสูตริบรม จป บริการที่กฎหมายกำหนด
📍 อบรมได้ทั้งแบบ Public และ In-house
📅 เช็ควันอบรมล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ของเรา: อบรม จป บริหาร
📢 สนใจสอบถามข้อมูล โทร. (064) 958 7451 คุณแนน
แหล่งอ้างอิง
- กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน. (2566). แนวทางการกำหนดตัวชี้วัดด้านความปลอดภัยในการทำงาน.
- Occupational Safety and Health Administration (OSHA). Using Leading Indicators to Improve Safety and Health Outcomes.
- Safe Work Australia. Measuring and reporting on work health and safety.
- International Labour Organization (ILO). Guidelines on Occupational Safety and Health Management Systems (ILO-OSH 2001). Geneva.
บทความที่น่าสนใจ
- คุณสมบัติผู้ตรวจเครน ตามกฎหมายกำหนด
- อันตรายจากการตกจากที่สูง และ มาตรการป้องกัน
- ILO คืออะไร : องค์กรแรงงานระหว่างประเทศ
- ACGIH กับบทบาทในอาชีวอนามัย: มาตรฐานที่คุณควรรู้