SCBA กับ Air-Line Supply เลือกอุปกรณ์หายใจแบบไหนในที่อับอากาศ

by pam
6 views
SCBA กับ Air-Line Supply

การทำงานในพื้นที่อับอากาศ (Confined Space) เป็นหนึ่งในงานที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดในด้านความปลอดภัยในการทำงาน เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้มักมีปริมาณออกซิเจนต่ำ หรือมีสารปนเปื้อนทางอากาศที่เป็นอันตราย เช่น ก๊าซพิษ หรือสารไวไฟ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถดำเนินงานได้อย่างปลอดภัย การใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ (Breathing Apparatus) จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการระบายอากาศไม่เพียงพอหรือไม่สามารถทำได้

อุปกรณ์ช่วยหายใจหลักที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันมีอยู่ 2 ประเภทหลัก ได้แก่ SCBA (Self-Contained Breathing Apparatus)และ Air-Line Supply ซึ่งแต่ละแบบมีจุดเด่น จุดด้อย และความเหมาะสมในการใช้งานแตกต่างกันไป บทความนี้จะวิเคราะห์เปรียบเทียบคุณลักษณะของทั้งสองประเภท พร้อมทั้งให้แนวทางในการเลือกใช้งานอย่างเหมาะสม

ทำความรู้จักอุปกรณ์ช่วยหายใจในพื้นที่อับอากาศ

SCBA

1. SCBA (Self-Contained Breathing Apparatus)

SCBA คือ อุปกรณ์ช่วยหายใจแบบพกพาที่มีถังอากาศอัดความดันสูงติดตัวไปกับผู้สวมใส่ โดยจะมีสายต่อจากถังไปยังหน้ากากครอบหน้า เพื่อส่งอากาศหายใจเข้าไปยังปอดของผู้ใช้งาน

ข้อดีของ SCBA

  • ให้ความคล่องตัวสูง สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ

  • ไม่ต้องพึ่งพาแหล่งอากาศภายนอก

  • เหมาะกับสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้ท่อส่งอากาศเข้าไปได้

ข้อจำกัด

  • เวลาการใช้งานจำกัดตามความจุของถัง (โดยเฉลี่ย 30-60 นาที)

  • มีน้ำหนักมาก อาจทำให้เหนื่อยล้าหากต้องใช้งานนาน

Air-Line Supply

2. Air-Line Supply

Air-Line Supply หรือ Supplied-Air Respirator (SAR) แบบใช้สายต่อ เป็นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับแหล่งอากาศบริสุทธิ์ผ่านท่อ โดยอากาศจะถูกจ่ายผ่านท่อเข้าสู่หน้ากากที่ผู้ใช้งานสวมใส่

ข้อดีของ Air-Line Supply

  • ใช้งานได้นานอย่างต่อเนื่อง ตราบเท่าที่แหล่งอากาศยังทำงาน

  • น้ำหนักเบากว่า SCBA เพราะไม่มีถังอากาศติดตัว

  • เหมาะกับการทำงานที่ใช้เวลานาน เช่น การบำรุงรักษา การทำความสะอาดภายในถัง

ข้อจำกัด

  • พื้นที่เคลื่อนไหวจำกัดตามความยาวของท่อ

  • ท่ออาจพันหรือขัดข้องได้ หากไม่ดูแลอย่างเหมาะสม

  • ไม่เหมาะกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องการความคล่องตัว

เปรียบเทียบการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ

ลักษณะพื้นที่/สถานการณ์ คำแนะนำในการเลือก เหตุผล
ถังลึกหรือถังเก็บสารเคมี Air-Line Supply เหมาะกับงานที่ต้องใช้เวลานาน และไม่ต้องเคลื่อนไหวมาก
ท่อยาวหรืออุโมงค์แคบ SCBA ต้องการความคล่องตัวสูงในการเคลื่อนที่ไปตามแนวท่อ
ห้องปิดแน่น ไม่มีทางออกฉุกเฉิน SCBA หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะต้องหนีออกอย่างรวดเร็ว
งานซ่อมบำรุงในพื้นที่โล่งแต่มีสารพิษปนเปื้อน Air-Line Supply ให้การป้องกันที่ต่อเนื่อง โดยไม่ต้องพกน้ำหนักเพิ่มเติม
เหตุการณ์กู้ภัยในที่อับอากาศ SCBA ผู้กู้ภัยต้องเคลื่อนที่เร็ว มีเวลาจำกัดในการช่วยเหลือ

ไม่ว่าจะเลือก SCBA หรือ Air-Line Supply สิ่งสำคัญที่สุด คือการฝึกใช้งานจริง เพราะในสถานการณ์ฉุกเฉิน การรู้วิธีใส่ ถอด ตรวจสอบ และตอบสนองอย่างถูกต้อง จะช่วยชีวิตผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่อับอากาศได้อย่างแท้จริง ทำให้ผู้ที่จะทำงานในที่อับอากาศ ต้องผ่านการอบรมความปลอดภัยที่อับอากาศ ก่อนถึงจะทำงานได้ตามข้อกำหนดกฎหมาย

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกอุปกรณ์

1. ระยะเวลาที่ต้องอยู่ในพื้นที่อับอากาศ

  • หากงานใช้เวลานาน > 1 ชั่วโมง → แนะนำ Air-Line Supply
  • หากเป็นงานเร่งด่วน หรือไม่แน่ใจเวลา → เลือก SCBA

2. ความซับซ้อนของพื้นที่

  • พื้นที่มีทางเดินคดเคี้ยว แคบ หรือมีสิ่งกีดขวาง → SCBA เหมาะกว่า
  • พื้นที่โล่ง ไม่มีอุปสรรคมาก → ใช้ Air-Line ได้สะดวก

3. ความสามารถในการจัดการอุปกรณ์

  • หากมีทีมดูแลอุปกรณ์ มีปั๊มลม และระบบกรองอากาศที่เชื่อถือได้ → Air-Line Supply คือทางเลือกประหยัดระยะยาว
  • หากไม่มีระบบสนับสนุน → SCBA จัดเก็บง่าย เคลื่อนที่สะดวก

4. สภาพความพร้อมของผู้ใช้งาน

  • ผู้ที่มีประสบการณ์ ใช้อุปกรณ์เป็น → ใช้ได้ทั้งสองแบบ
  • ผู้ที่เพิ่งผ่านการอบรม → เริ่มจาก SCBA ที่ใช้ง่ายกว่าในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องอุปกรณ์หายใจ

มาตรฐานและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องอุปกรณ์หายใจ

ทั้ง SCBA และ Air-Line Supply ต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดโดยองค์กรความปลอดภัยระดับสากล เช่น

  • NIOSH (National Institute for Occupational Safety and Health)
    มาตรฐาน NIOSH กำหนดประเภทและระดับของอุปกรณ์หายใจตามการใช้งาน

  • NFPA 1981 สำหรับ SCBA ที่ใช้ในงานดับเพลิง

  • OSHA 29 CFR 1910.134 กำหนดการฝึกอบรม การตรวจสอบ และการดูแลรักษาอุปกรณ์ช่วยหายใจ

  • ANSI Z88.2 แนวทางในการเลือกใช้อุปกรณ์หายใจ

การใช้งานในพื้นที่อับอากาศในประเทศไทย ยังต้องเป็นไปตามประกาศของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เช่น

  • ประกาศเรื่อง “ความปลอดภัยในการทำงานในที่อับอากาศ” ซึ่งกำหนดให้นายจ้างต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม

  • ต้องมีแผนเผชิญเหตุ และการซ้อมแผนกู้ชีพ-กู้ภัยอย่างสม่ำเสมอ

ข้อควรระวังในการใช้งาน

  • ตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนใช้งานทุกครั้ง

  • ฝึกซ้อมการใช้งานกับสถานการณ์จำลอง

  • ดูแลรักษาอุปกรณ์ให้พร้อมใช้งานเสมอ

  • ห้ามใช้ Air-Line Supply หากมีความเสี่ยงที่แหล่งอากาศอาจถูกปนเปื้อน

สรุป

การเลือกใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจที่เหมาะสมในพื้นที่อับอากาศ ไม่ใช่เพียงการเลือกจากความสะดวกสบายหรือราคา แต่ต้องพิจารณาจากความปลอดภัยเป็นหลัก โดยต้องประเมินจากสภาพพื้นที่ ลักษณะงาน และระยะเวลาในการปฏิบัติงาน

  • หากต้องการ ความคล่องตัวและความพร้อมในการเคลื่อนที่ – SCBA คือ คำตอบ

  • หากต้องการ การทำงานต่อเนื่องระยะยาวโดยไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อย – Air-Line Supply คือ ทางเลือก

แม้ว่าอุปกรณ์ทั้งสองจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการฝึกอบรมผู้ใช้งานให้มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถใช้อุปกรณ์ได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้ทุกชีวิตปลอดภัยกลับบ้านในทุกวัน


อ้างอิง

  1. National Institute for Occupational Safety and Health (NIOSH). (2020). Respirator Trusted-Source Information.

  2. Occupational Safety and Health Administration (OSHA). (2021). Respiratory Protection Standard 29 CFR 1910.134.

  3. American National Standards Institute (ANSI). (2015). ANSI Z88.2 – Practices for Respiratory Protection.

  4. NFPA 1981. (2018). Standard on Open-Circuit Self-Contained Breathing Apparatus (SCBA) for Emergency Services.

  5. กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน. (2564). ประกาศเรื่อง ความปลอดภัยในการทำงานในที่อับอากาศ.

  6. Dräger. (n.d.). SCBA vs Airline Breathing Apparatus: Which is Best?


บทความที่น่าสนใจ

บทความน่าสนใจ

ใบอนุญาตกรมสวัสดิการฯ

คลิกรูปเพื่อขยาย

ได้รับมาตรฐาน ISO 9001

คลิกรูปเพื่อขยาย

บริษัท เซฟตี้ เมมเบอร์

เลขที่ 349 อาคารเอสเจ อินฟินิท วัน บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ ชั้น 20 ห้องเลขที่ 2001-2005  ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

อีเมล
โทรศัพท์

คุณ แนน

เพิ่มเพื่อน

©2025 SAFETYMEMBER. Developed website and SEO by iPLANDIT