เปรียบเทียบเครื่องตรวจวัดก๊าซ Single Gas กับ Multi-Gas เลือกอย่างไรดี

by pam
17 views
เครื่องตรวจวัดก๊าซ Single Gas กับ Multi-Gas

การทำงานในที่อับอากาศ (Confined Space) เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงต่อชีวิตและสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอันตรายของก๊าซพิษ ก๊าซติดไฟ และภาวะขาดออกซิเจน ด้วยเหตุนี้ การเลือกใช้เครื่องตรวจวัดก๊าซจึงมีความสำคัญ

เครื่องตรวจวัดก๊าซสามารถแบ่งออกได้เป็นสองกลุ่มหลัก ได้แก่ เครื่องตรวจวัดก๊าซแบบ 1-in-1 หรือที่เราเรียกว่า Single Gas Detector และเครื่องตรวจวัดก๊าซแบบหลายชนิด (Multi-Gas Detector) ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย และค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน บทความนี้จะวิเคราะห์เปรียบเทียบเครื่องทั้งสองประเภท พร้อมข้อเสนอแนะในการเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมของการทำงานในที่อับอากาศ

วิเคราะห์ข้อดีข้อเสียเครื่องวัดก๊าซ แต่ละประเภท

Single Gas Detector

1. เครื่องตรวจวัดก๊าซแบบ Single Gas Detector

Single Gas Detector คือ อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อวัดก๊าซเพียงชนิดเดียว เช่น ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H₂S), คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO), ออกซิเจน (O2) หรือวัดค่าการระเบิดของก๊าซเชื้อเพลิง (LEL) เครื่องมักมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ราคาประหยัด ใช้งานง่าย และมักใช้แบตเตอรี่ได้นาน

ตัวอย่างเครื่องที่ใช้กันทั่วไป เช่น:

  • BW Clip ((H₂S, CO)
  • MSA Altair
  • Dräger PAC Series

ข้อดี:

  • ราคาเริ่มต้นต่ำกว่าเครื่องแบบ Multi-Gas
  • ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
  • แบตเตอรี่อยู่ได้นานถึง 2 ปี (แบบไม่สามารถชาร์จได้)
  • เหมาะกับการใช้งานเฉพาะจุดที่ทราบความเสี่ยงชัดเจน

ข้อเสีย:

  • ตรวจวัดได้เพียงค่าก๊าซเดียว
  • ต้องใช้อุปกรณ์หลายตัวหากต้องวัดหลายค่าพร้อมกัน
  • ไม่เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงจากหลายก๊าซ

Multi-Gas Detector

2. เครื่องตรวจวัดก๊าซแบบ Multi-Gas Detector

Multi-Gas Detector คือ อุปกรณ์ที่สามารถตรวจวัดก๊าซได้พร้อมกันหลายชนิด โดยส่วนใหญ่มาตรฐานคือวัดได้ 4 ค่า ได้แก่ ออกซิเจน (O2), คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO), ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H₂S), และ LEL (Lower Explosive Limit) นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่ม Sensor สำหรับก๊าซเฉพาะอื่นๆ เช่น SO2, NH3, CH₄ ได้ในบางรุ่น

ตัวอย่างเครื่องที่ใช้กันทั่วไป:

  • BW GasAlert MicroClip XL
  • RAE Systems MultiRAE
  • Dräger X-am 2500 / 5000
  • MSA Altair 4X

ข้อดี:

  • ตรวจวัดก๊าซได้พร้อมกันหลายชนิด
  • ครอบคลุมความเสี่ยงในที่อับอากาศได้มากกว่า
  • มีระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติแบบเสียง ไฟกระพริบ และสั่น
  • เหมาะกับการตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อนเข้าทำงานและขณะทำงาน

ข้อเสีย:

  • ราคาสูงกว่ารุ่น Single Gas
  • ต้องบำรุงรักษาและสอบเทียบ (Calibration) บ่อยกว่า
  • แบตเตอรี่อาจอยู่ได้สั้นกว่ารุ่น Single Gas
  • มีความซับซ้อนในการใช้งานบางฟังก์ชัน

ตารางการเปรียบเทียบเครื่องวัดก๊าซในเชิงวิชาการ

คุณสมบัติ Single Gas Detector Multi-Gas Detector
จำนวนก๊าซที่ตรวจวัด 1 ชนิด 4-5 ชนิดหรือมากกว่า
ขนาด เล็กกว่า ใหญ่กว่าเล็กน้อย
ความซับซ้อน ต่ำ ปานกลางถึงสูง
ความแม่นยำ สูง (สำหรับก๊าซเดียว) สูง (โดยเฉพาะรุ่นมาตรฐาน)
การบำรุงรักษา น้อย มากกว่า (สอบเทียบหลายเซนเซอร์)
ค่าใช้จ่าย ต่ำ (5,000 – 15,000 บาท) สูง (20,000 – 80,000+ บาท)
ความเหมาะสมในที่อับอากาศ น้อย (เฉพาะกรณีรู้ความเสี่ยงชัดเจน) สูง (ตรวจวัดครอบคลุมหลายความเสี่ยง)

หมายเหตุ : เครื่องตรวจก๊าซ ก่อนนำไปตรวจไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนต้องนำไปสอบเทียบตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในการตรวจเทียบเครื่องมือว่ามีค่าแม่นยำหรือไม่

ออกซิเจนปกติในอากาศควรอยู่ที่ 20.9% หากต่ำกว่า 19.5% ถือว่าอันตราย ต้องรีบออกจากพื้นที่ทันที

ข้อเสนอสำหรับการเลือกใช้งานในพื้นที่อับอากาศ

การเลือกอุปกรณ์ตรวจวัดก๊าซในที่อับอากาศ

การเลือกอุปกรณ์ตรวจวัดก๊าซในที่อับอากาศควรพิจารณาตามปัจจัยต่อไปนี้:

1. ประเภทของความเสี่ยงที่มีอยู่

หากพื้นที่อับอากาศมีประวัติหรือโอกาสในการเกิดก๊าซหลายชนิด เช่น แท็งค์น้ำเสีย, บ่อบำบัด, หรือห้องใต้ดิน การเลือก Multi-Gas Detector จะเหมาะสมกว่า

2. งบประมาณที่สามารถจัดสรรได้

แม้ Multi-Gas Detector จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า แต่ก็ให้ความคุ้มค่าด้านความปลอดภัยมากกว่า โดยเฉพาะสำหรับงานที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีหลายคนเข้าปฏิบัติงานร่วมกัน

3. ความถี่ในการใช้งาน

สำหรับองค์กรที่มีการปฏิบัติงานในที่อับอากาศเป็นประจำ ควรลงทุนกับเครื่อง Multi-Gas Detector ที่สามารถสอบเทียบและเปลี่ยนเซนเซอร์ได้ ส่วนองค์กรที่ใช้งานไม่บ่อย อาจพิจารณาใช้เครื่อง Single Gas แบบใช้งานได้จำกัดเวลา (Disposable Type)

4. ความสามารถของผู้ใช้งาน

ผู้ปฏิบัติงานควรได้รับการอบรมที่อับอากาศ เพื่อฝึกการใช้งานอุปกรณืเกี่ยวกับที่อับอากาศ และอ่านค่าจากอุปกรณ์อย่างถูกต้อง Multi-Gas Detector บางรุ่นมีระบบ Interface ที่ต้องการความเข้าใจในการตั้งค่าเบื้องต้น

5. การบำรุงรักษาและสอบเทียบ

เครื่อง Multi-Gas Detector ต้องการการสอบเทียบสม่ำเสมอทุก 6 เดือน หรือตามคำแนะนำของผู้ผลิต โดยใช้ก๊าซสอบเทียบเฉพาะ และต้องดูแลเซนเซอร์ไม่ให้เสื่อมสภาพ ขณะที่เครื่อง Single Gas บางรุ่นอาจไม่สามารถสอบเทียบได้ (เป็นแบบ Disposable)

สรุป

การตรวจวัดก๊าซในที่อับอากาศเป็นองค์ประกอบสำคัญในการป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรง การเลือกเครื่องตรวจวัดก๊าซจึงไม่ควรพิจารณาเพียงด้านราคา แต่ควรคำนึงถึงความครอบคลุมของค่าที่ต้องตรวจวัด ความสะดวกในการใช้งาน ความสามารถในการบำรุงรักษา และความเข้าใจของผู้ใช้งานด้วย

หากพื้นที่อับอากาศมีความเสี่ยงจากก๊าซหลายชนิด หรือไม่สามารถระบุล่วงหน้าได้ว่ามีก๊าซใด การเลือกใช้เครื่อง Multi-Gas Detector คือคำตอบที่เหมาะสมกว่า ในขณะที่เครื่อง Single Gas Detector อาจเหมาะกับสถานการณ์เฉพาะทางที่สามารถควบคุมความเสี่ยงได้ และต้องการควบคุมงบประมาณ

การเลือกใช้งานเครื่องตรวจวัดก๊าซที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับชีวิตผู้ปฏิบัติงาน ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ และส่งเสริมให้การทำงานในที่อับอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากการเลือกเครื่องตรวจวัดก๊าซแล้วผู้ปฏิบัติงานในที่อับอากาศ ต้องเรียนรู้ทักษะการอ่านเครื่องมือ และการใช้อุปกรณ์อื่นสำหรับงานที่อับอากาศให้เข้าใจหลักการทำงานของมันก่อน ผ่านการเข้าอบรมที่อับอากาศ เราขอแนะนำศูนย์ฝึกอบรมที่อับอากาศ ที่ Safetymember ศูนย์ฝึกอบรมความปลอดภัย พร้อมทีมวิทยากรมืออาชีพ สามารถอ่านรายละเอียดหลักสูตรได้ที่นี้

หลักสูตร : สมัครอบรมอับอากาศ 4 ผู้

ติดต่อสอบถาม : (064) 958 7451 คุณแนน


เอกสารอ้างอิง:

  1. OSHA. (2023). Confined Spaces. Occupational Safety and Health Administration.
  2. NIOSH. (2022). Criteria for a Recommended Standard: Working in Confined Spaces. National Institute for Occupational Safety and Health.
  3. BW Technologies by Honeywell. (2022). Product Manuals and Technical Specifications.
  4. Dräger Safety. (2023). Gas Detection Equipment Specifications and Use Guide.
  5. MSA Safety. (2023). Multi-Gas and Single-Gas Detector Product Documentation.
  6. สมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน (ประเทศไทย). (2564). คู่มือการทำงานในที่อับอากาศ.

บทความที่น่าสนใจ

บทความน่าสนใจ

ใบอนุญาตกรมสวัสดิการฯ

คลิกรูปเพื่อขยาย

ได้รับมาตรฐาน ISO 9001

คลิกรูปเพื่อขยาย

บริษัท เซฟตี้ เมมเบอร์

เลขที่ 349 อาคารเอสเจ อินฟินิท วัน บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ ชั้น 20 ห้องเลขที่ 2001-2005  ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

อีเมล
โทรศัพท์

คุณ แนน

เพิ่มเพื่อน

©2025 SAFETYMEMBER. Developed website and SEO by iPLANDIT