ในการดำเนินงานตามสถานที่ทำงานที่มีความเสี่ยงสูง จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการปฏิบัติงาน ระบบการขออนุญาตปฏิบัติงาน หรือ Work Permit เป็นสิ่งที่ ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานมีความเข้าใจถึง มาตรการความปลอดภัยที่ต้องปฏิบัติตาม และส่งเสริมให้เกิดการควบคุมความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ
ความสำคัญของ Work Permit ในการจัดการความเสี่ยง
Work Permit หรือการขออนุญาตปฏิบัติงานตามความเสี่ยง เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการบริหารความปลอดภัยในสถานประกอบการ โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น งานที่เกี่ยวข้องกับความร้อน งานในพื้นที่อับอากาศ งานที่มีการใช้งานไฟฟ้าแรงสูง หรืองานในพื้นที่สูง เป็นต้น การใช้ Work Permit จะช่วยให้มั่นใจว่ามีการประเมินความเสี่ยงก่อนเริ่มงาน และมีการกำหนดมาตรการความปลอดภัยที่จำเป็นเพื่อควบคุมความเสี่ยงเหล่านั้น
ประเภทของ Work Permit
การขออนุญาตปฏิบัติงานสามารถจำแนกได้เป็นหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะของงานและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง โดยประเภทของ Work Permit ที่พบได้ทั่วไป ได้แก่
- Permit to Work in Confined Space: สำหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่อับอากาศ ซึ่งมีความเสี่ยงเกี่ยวกับการขาดออกซิเจนหรือการสัมผัสกับสารเคมี
- Hot Work Permit: สำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้เปลวไฟ เช่น งานเชื่อม หรือตัดโลหะ โดยหลักการทำ Hot Work Permit ถูกจัดให้เป็นบทเรียนใน หลักสูตรผู้เฝ้าระวังไฟ
- Electrical Work Permit: สำหรับการปฏิบัติงานกับระบบไฟฟ้า โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับแรงดันไฟฟ้าสูง
- Working at Height Permit: สำหรับงานในที่สูงซึ่งมีความเสี่ยงต่อการพลัดตกจากที่สูง
ขั้นตอนในการขออนุญาตปฏิบัติงาน (Work Permit Process)
เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การขออนุญาตปฏิบัติงานจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ชัดเจนดังนี้
- ประเมินความเสี่ยง
ก่อนที่จะเริ่มงานใดๆ ผู้ปฏิบัติงานและผู้ควบคุมงานต้องทำการประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากลักษณะงานนั้นๆ เพื่อให้ทราบถึงความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย - ออกใบอนุญาตปฏิบัติงาน
ใบอนุญาตปฏิบัติงานจะออกโดยผู้ที่มีอำนาจ เช่น หัวหน้างานหรือเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย โดยในใบอนุญาตจะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะของงาน ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และมาตรการควบคุมที่ต้องปฏิบัติ - ตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย
ก่อนเริ่มงาน ต้องมีการตรวจสอบให้แน่ใจว่ามาตรการความปลอดภัยตามที่ระบุในใบอนุญาตได้ถูกนำไปปฏิบัติจริง เช่น การตรวจสอบอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล การปิดกั้นพื้นที่ หรือการตรวจวัดสภาพแวดล้อม เป็นต้น - วิธีการดำเนินงาน
เมื่อได้รับการอนุมัติและตรวจสอบครบถ้วนแล้ว จึงจะสามารถเริ่มปฏิบัติงานได้ โดยต้องมีการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดจากหัวหน้างานหรือผู้ควบคุมงาน - การประเมินหลังเสร็จสิ้นงาน
หลังจากเสร็จสิ้นงาน จะต้องมีการประเมินผลการปฏิบัติงานและตรวจสอบให้แน่ใจว่าสภาพแวดล้อมได้กลับสู่ความปลอดภัยแล้ว
ใครบ้างเป็นเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องในการขอ Work Permit
ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการขอ Work Permit จะต้องมีความเข้าใจและปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ดังนี้
- ผู้ปฏิบัติงาน: พนักงานที่ทำงานทุกคนต้องรับทราบถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยที่ระบุใน Work Permit อย่างเคร่งครัด
- ผู้ควบคุมงานหรือหัวหน้างาน: เป็นผู้ที่ต้องทำการประเมินและตรวจสอบความเสี่ยงอย่างละเอียดก่อนที่จะออกใบอนุญาต สำหรับผุ้ที่เป็นหัวหน้างานต้อง ผ่านการอบรม จป หัวหน้างาน เพื่อที่จะได้เป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับหัวหน้างาน (จป. หัวหน้างาน) อย่างถูกต้อง
- เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) : ทำหน้าที่ในการกำกับดูแล ตรวจสอบความถูกต้อง และให้คำแนะนำในการจัดการความเสี่ยง ให้ถูกหลักตามกฎหมาย
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการขอ Work Permit
แม้ว่าระบบ Work Permit จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงในสถานประกอบการ แต่การใช้งานในทางปฏิบัติอาจพบปัญหาและความท้าทาย เช่น
- ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน: บางครั้งผู้ปฏิบัติงานหรือหัวหน้างานอาจละเลยขั้นตอนบางอย่าง ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยได้
- ขาดความเข้าใจ: หากผู้ที่เกี่ยวข้องไม่มีความเข้าใจในกระบวนการและความสำคัญของ Work Permit อาจส่งผลให้การปฏิบัติงานไม่ปลอดภัย
- ตรวจสอบไม่ทั่วถึง: การตรวจสอบมาตรการความปลอดภัยก่อนเริ่มงานอาจขาดความละเอียดถี่ถ้วน ทำให้เกิดความเสี่ยงที่ไม่ได้รับการควบคุม
ประโยชน์ของการขออนุญาตปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยง
การใช้ระบบ Work Permit ในสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงสูง มีประโยชน์หลายอย่าง โดยที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความปลอดภัยและลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุในที่ทำงาน ซึ่งประโยชน์หลักๆจะเป็นการเตรียมตัวก่อนลงมือปฏิบัติงาน
- พนักงานทราบขั้นตอนการขออนุญาตก่อนเริ่มงานเสี่ยงอันตราย
Work Permit กำหนดให้พนักงานต้องผ่านขั้นตอนการขออนุญาตก่อน จะเริ่มปฏิบัติงานในบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งเป็นการเน้นย้ำให้พนักงานเข้าใจถึงความสำคัญของการปฏิบัติ ตามขั้นตอนด้านความปลอดภัย
โดยการขออนุญาตนี้ ช่วยป้องกันไม่ให้มีการดำเนินงานที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย โดยไม่ได้รับการควบคุม หรือตรวจสอบจากผู้รับผิดชอบที่เกี่ยวข้อง - สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยก่อนเริ่มงานเสี่ยงอันตราย
เป็นรับรองว่าพนักงานสามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย ก่อนที่จะเข้าสู่สภาวะหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง Work Permit จะกำหนดให้มีการตรวจสอบและเตรียมพร้อม ในเรื่องของอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) มาตรการด้านความปลอดภัยเฉพาะจุด รวมถึงการปิดกั้นพื้นที่อันตราย เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานทุกคนได้รับการป้องกันที่เหมาะสม ลดความเสี่ยงและช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างปลอดภัยมากที่สุด - ช่วยให้เข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการขออนุญาตทำงาน
การจัดทำ Work Permit ช่วยส่งเสริมให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าใจถึงบทบาท และความรับผิดชอบของตนเอง ในกระบวนการขออนุญาตปฏิบัติงาน ตั้งแต่ผู้ขออนุญาต หัวหน้างาน เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ไปจนถึงผู้ควบคุมงาน โดยแต่ละฝ่ายมีหน้าที่และความรับผิดชอบเฉพาะในการประเมินความเสี่ยง อนุมัติใบอนุญาต ตลอดจนตรวจสอบให้แน่ใจว่ามาตรการความปลอดภัยทั้งหมด ได้รับการดำเนินการครบถ้วน ความเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ที่ชัดเจน ช่วยให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และมีการป้องกันอันตรายอย่างเป็นระบบ
สรุป
การใช้ Work Permit ในการขออนุญาตปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยงสูงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงาน ระบบนี้ไม่เพียงแต่กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานต้องผ่านการตรวจสอบและขออนุญาตก่อนเริ่มงาน แต่ยังสร้างความเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ของแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงพนักงาน หัวหน้างาน และเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) การดำเนินการตามขั้นตอน Work Permit อย่างเคร่งครัดจึงเป็นการป้องกันและลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุในที่ทำงาน ทั้งยังช่วยเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
บทความที่น่าสนใจ
- ทำไมบริษัทควรจัดให้มีการตรวจสุขภาพประจําปี สําหรับพนักงาน
- วิธีการขึ้นทะเบียน บุคลากรเฉพาะฯ (บฉ.) รับผิดชอบเก็บรักษาวัตถุอันตราย
- วิธีการขออนุญาตต่อเติมอาคาร ตามกฎหมาย